การคว้าแชมป์ที่น่าจดจำของ นาโปลี
นาโปลี กลับสู่ความสำเร็จอีกครั้ง หลังจากคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 2025 มาครองได้สำเร็จที่ต้องลุ้นแชมป์ลีกแดนมักกะโรนีจนถึงเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล
ลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ คว้า สคูเด็ตโต้ เป็นสมัยที่ 4 จากชัยชนะเหนือกายารีในเกมสุดท้ายของฤดูกาล และเป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ฤดูกาล หลังจากผ่านฤดูกาลที่ยากลำบากในช่วงก่อนหน้านี้ที่ทำให้พวกเขาหมดความเป็นทีมลุ้นแชมป์มาแล้วช่วงหนึ่ง
ในยุคที่พวกเขามี ควิชา ควารัตสเคเลีย และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน สามารถยุติการรอคอยอันยาวนาน เมื่อคว้า สคูเด็ตโต้ สมัยที่ 3 ในรอบ 33 ปี ของสโมสร แต่หลังจากนั้นทุกอย่างกลับสู่การเริ่มต้นใหม่ เมื่อผลงานฤดูกาลนั้นพวกเขาจบแชมป์ฟุตบอลลีกอิตาลี ด้วยผลงานชนะ 28 เสมอ 6 แพ้เพียง 4 เกม ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งน้อยที่สุดในลีก และเก็บไปทั้งสิ้น 90 แต้ม อย่างไรก็ตามในซีซั่นถัดมา นาโปลี กลับร่วงลงไปอยู่อันดับ 10 พลาดทั้งการป้องกันแชมป์ พลาดทั้งโควตาไปเล่นถ้วยยุโรปในทุกรายการ
อย่างไรก็ดี นาโปลี ตัดสินใจเปลี่ยนแผนในช่วงซัมเมอร์ของซีซั่นนี้และดึง อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาคุมทีม ความคิด วินัย และความทะเยอทะยานทำให้ นาโปลี กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ นาโปลี กลับสู่แชมป์ต้องชื่นชมในการเสริมทัพของ คอนเต้ ที่เรียกได้ว่า เปลี่ยนโฉมทีมไปอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะหลักของพวกเขาบางรายมาจากความไม่ต้องการจากสโมสรอื่น
โอซิมเฮน กองหน้าตัวเก่งที่ย้ายออกจากทีมถูกแทนที่ด้วย ดาบิด เนเรส ที่เข้ามาเสริมความหลากหลายในแนวรุก และการต้องเสีย ควิชา ควารัตสเคเลีย ออกไป จะทำให้แฟนบอลห่วงถึงผลงานของทีม แต่ ผู้เล่นที่มีอยู่ของ นาโปลี ทั้งเก่า และใหม่ก็ทำให้ความกังวลนั้นถูกคลี่คลาย
ฤดูกาลนี้ นาโปลี เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แต่ย้อนไปในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ พวกเขาก็เซ็นสัญญากับผู้เล่นสำคัญสองคนจากพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ได้แก่ โรเมลู ลูกากู และ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ โดยรายของกองหน้าชาวเบลเยียมซึ่งเป็นผู้เล่นที่คอนเต้ไว้วางใจมาอย่างยาวนาน เปลี่ยนจากนักเตะที่หลายทีมไม่ต้องการให้กลับมาเป็น เพชรฆาตดาวยิงอีกครั้ง
ลูกากู ลงสนามเป็นตัวจริงในเซเรียอานัดแรกให้กับนาโปลีในเกมที่พบกับกายารีเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2024 โดยเขายิงได้ 1 ประตูและทำแอสซิสต์ได้ 2 ครั้ง (4-0) ในปี 2025 นักเตะชาวเบลเยียมมีส่วนร่วมกับประตูในบ้าน 9 ลูก (5 ประตู + 4 แอสซิสต์) ซึ่งมากที่สุดในบรรดานักเตะทั้งหมดในเซเรียอาในปีนี้ รองจากสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ (7 ประตู – 5 ประตู + 2 แอสซิสต์) ขณะที่ แม็คโทมิเนย์ ก็คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลไปครอง
การมาของ คอนเต้ เขาเป็นผู้นำการปฏิวัติแนวทางการเล่นของทีมด้วยแนวรับสี่คน และแดนกลางสามคน โดยใช้ แม็คโทมิเนย์ วิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษที่เห็นผลชัดเจนกับความเยี่ยมของเขาทำให้กลายเป็นดีลสุดคุ้มของ นาโปลี
หลังจากนั้นบรรยากาศในทีมเปลี่ยนไป การเดินทางมาถึงในเกมสุดท้าย นาโปลี ไม่พลาดที่จะเอาชนะ กายารี นั่นทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกมาครอง ทำให้แฟนบอลออกมาโบกธงสโมสรอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง
นาโปลี คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้สำเร็จ เป็นครั้งที่สองในยุคปัจจุบัน และได้เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้น อันโตนิโอ คอนเต้ กลายเป็นโค้ชคนแรกที่คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้สำเร็จกับสามสโมสรที่แตกต่างกัน ได้แก่ ยูเวนตุส อินเตอร์ และนาโปลีในปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้นการคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้เป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์ หลังจากฤดูกาล 1986/87, 1989/90 และ 2022/23 ซึ่งทำให้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีทีมจากภาคกลางหรือใต้ของอิตาลีทีมไหนคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้มากกว่า 3 สมัย (โรม่าก็คว้าแชมป์มาได้ 3 สมัยเช่นกัน)
และนี่คือประวัติศาสตร์ที่พวกเขาเขียนเอาไว้ให้กับ กัลโช่ เซเรีย อา ยุคใหม่…
และแฟนบอลที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 2025 ทีเด็ดเดิมพัน รวมถึงข่าวอัพเดต กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี 2025 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
